จุลินทรีย์ในลำไส้: ด่านแรกของภูมิคุ้มกันและสุขภาพ
จุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiota) มีจำนวนมากกว่า 100 ล้านล้านตัว และมีบทบาทสำคัญในการย่อยอาหาร ผลิตวิตามิน และควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน แต่เมื่อเกิด “ภาวะจุลินทรีย์ลำไส้เสียสมดุล” (Gut Dysbiosis) ร่างกายจะเริ่มเผชิญการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในหลายอวัยวะ เช่น ลำไส้ใหญ่ ตับอ่อน และตับ
ความเชื่อมโยงระหว่าง “Gut Dysbiosis” และ “มะเร็ง”
- กระตุ้นการอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation)
งานวิจัยในวารสาร Nature Reviews Cancer (2020) พบว่า จุลินทรีย์ก่อโรค เช่น Escherichia coli และ Fusobacterium nucleatum สามารถกระตุ้นการสร้างสารพิษและสารก่อการอักเสบ (cytokines) ทำให้เซลล์ในลำไส้ถูกทำลาย และเพิ่มโอกาสการกลายพันธุ์ของ DNA - สร้างสารพิษที่ทำลายเซลล์ (Genotoxic Effects)
จุลินทรีย์บางชนิดผลิตสารพิษ เช่น colibactin ที่มีผลทำลายสาย DNA ของเซลล์เยื่อบุลำไส้ นำไปสู่การกลายพันธุ์ และกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ (Arthur et al., Science, 2012) - ลดการทำงานของภูมิคุ้มกันต้านมะเร็ง
เมื่อจุลินทรีย์ดีลดลง เช่น Bifidobacterium หรือ Lactobacillus ร่างกายจะผลิตสารภูมิคุ้มกันได้น้อยลง ทำให้การตรวจจับและทำลายเซลล์มะเร็งของระบบภูมิคุ้มกันลดประสิทธิภาพลง (Sivan et al., Science, 2015) - เปลี่ยนแปลงการเผาผลาญในร่างกาย (Metabolic Dysregulation)
จุลินทรีย์ในลำไส้เกี่ยวข้องกับการผลิตกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) เช่น Butyrate ซึ่งช่วยยับยั้งการอักเสบและกระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็ง เมื่อระดับ SCFAs ลดลง จะเพิ่มโอกาสการเติบโตของเซลล์ผิดปกติในลำไส้ (Canani et al., World Journal of Gastroenterology, 2011)
จุลินทรีย์ดีช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งได้อย่างไร
- Bifidobacterium – ลดสารก่ออักเสบในลำไส้ ปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน และช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง
- Lactobacillus – สร้างกรดแลกติกที่ยับยั้งเชื้อก่อโรค และลดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ลำไส้
- Akkermansia muciniphila – เสริมความแข็งแรงของเยื่อบุลำไส้ ลดภาวะ “ลำไส้รั่ว” (Leaky Gut) ที่ทำให้สารพิษเข้าสู่กระแสเลือด
- Faecalibacterium prausnitzii – ผลิตบิวทีเรต (Butyrate) ซึ่งช่วยต้านการอักเสบและลดการเจริญของเซลล์มะเร็ง
ปรับสมดุลลำไส้ เพื่อป้องกันโรคร้าย
การดูแลจุลินทรีย์ในลำไส้ให้สมดุลเป็นแนวทางสำคัญในการลดความเสี่ยงมะเร็ง โดยสามารถทำได้ผ่าน
- การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช
- การลดอาหารแปรรูปและเนื้อแดง
- การพักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด
- การเสริมโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์อย่างต่อเนื่อง
ป้องกันก่อนสายเกินไป ด้วยการตรวจสุขภาพลำไส้
Modgut มีบริการ Gut Microbiome Test ตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้ระดับ DNA เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงและแนะนำแนวทางการปรับสมดุลจุลินทรีย์เฉพาะบุคคล
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพลำไส้ได้ที่ ตรวจสุขภาพลำไส้ด้วย Modgut Gut Microbiome Test
ภาวะจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล ไม่เพียงส่งผลต่อระบบย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อการเกิดโรคมะเร็งในระยะยาว การดูแล Gut Microbiome ให้สมดุลจึงเป็นแนวทางดูแลสุขภาพเชิงรุก ที่ป้องกันโรคร้ายตั้งแต่ต้นเหตุ