ผลกระทบของความเครียดต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ และวิธีดูแลให้สมดุล

ความเครียดต่อจุลินทรีย์ในลำไส้

ความเครียดส่งผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ได้อย่างไร?

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า “ลำไส้” ไม่ได้มีหน้าที่ย่อยอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นแหล่งรวมของจุลินทรีย์หลายล้านล้านตัว ที่ทำงานร่วมกันอย่างซับซ้อนจนถูกขนานนามว่า “สมองที่สองของร่างกาย”

ภาวะความเครียดเรื้อรัง ส่งผลโดยตรงต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ผ่านสิ่งที่เรียกว่า Gut-Brain Axis หรือ “แกนสมอง-ลำไส้” ซึ่งเป็นระบบการสื่อสารสองทางระหว่างสมองกับลำไส้โดยมีจุลินทรีย์เป็นผู้เล่นหลัก

เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียด จะมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การทำงานของระบบย่อยอาหารเปลี่ยนแปลง ความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ถูกรบกวน แบคทีเรียดีลดลง ขณะที่แบคทีเรียก่อโรคมีโอกาสเติบโตมากขึ้น

อาการที่ตามมาอาจเริ่มจากเล็กน้อย เช่น ท้องอืด ลำไส้แปรปรวน ไปจนถึงอาการเรื้อรัง เช่น ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ การอักเสบในร่างกาย หรือแม้แต่อารมณ์ซึมเศร้าและวิตกกังวล

 

ข้อมูลจากงานวิจัยจุลินทรีย์กับความเครียด

มีงานวิจัยมากมายที่ศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างความเครียดและจุลินทรีย์ในลำไส้

  • การศึกษาจาก Harvard Medical School พบว่า ความเครียดสามารถลดจำนวนแบคทีเรียชนิดดี เช่น Lactobacillus และ Bifidobacterium ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ช่วยควบคุมการทำงานของลำไส้และเสริมภูมิคุ้มกัน
  • งานวิจัยในวารสาร Neurogastroenterology and Motility รายงานว่า ผู้ที่ได้รับโพรไบโอติกส์บางสายพันธุ์สามารถลดระดับฮอร์โมนความเครียด และมีอารมณ์ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โพรไบโอติกส์ที่มีผลช่วยฟื้นฟูลำไส้ในภาวะเครียด

จุลินทรีย์ที่มีบทบาทในการดูแลลำไส้และลดผลกระทบจากความเครียดมีหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่ได้รับการศึกษาว่ามีประสิทธิภาพสูง ได้แก่

    1. Bacillus coagulans BC198

เป็นโพรไบโอติกส์ในกลุ่ม Bacillus ที่สามารถสร้างสปอร์เพื่อทนต่อความร้อนและกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เดินทางถึงลำไส้ได้อย่างปลอดภัย
คุณสมบัติเด่นของ BC198 คือช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และช่วยให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงที่ร่างกายอยู่ในภาวะเครียด

    2. Lactobacillus paracasei S38

เป็นแบคทีเรียในกลุ่ม Lactobacillus ที่มีผลดีต่อการย่อยอาหารและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน มีการศึกษาว่าสามารถลดการสะสมไขมันในร่างกาย รวมถึงลดความเสี่ยงของไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ง่ายในช่วงที่ร่างกายมีความเครียดสะสม

การผสานการทำงานของจุลินทรีย์ทั้งสองสายพันธุ์นี้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการดูแลลำไส้และสุขภาพโดยรวม

 

วิธีดูแลจุลินทรีย์ในลำไส้เมื่อเผชิญกับความเครียด

 
  1. เสริมโพรไบโอติกส์ที่เหมาะสม เลือกโพรไบโอติกส์ที่มีสายพันธุ์ตรงกับความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงที่มีความเครียดสูง
  2. รับประทานพรีไบโอติกส์ อาหารที่มีใยอาหาร เช่น กล้วย กระเทียม หัวหอม หรือผักใบเขียว จะช่วยเลี้ยงจุลินทรีย์ดีในลำไส้ให้เจริญเติบโต
  3. หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป น้ำตาล และของปิ้งย่างทอด อาหารเหล่านี้กระตุ้นการเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพลำไส้ทำให้ลำไส้เสียสมดุล เสี่ยงต่อภาวะลำไส้รั่วและภูมิคุ้มกันต่ำ
  4. นอนหลับให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทั้งสองปัจจัยนี้มีผลต่อการรักษาสมดุลของจุลินทรีย์และลดระดับฮอร์โมนเครียดได้อย่างชัดเจน

 

จุลินทรีย์ในลำไส้เป็นมากกว่าผู้ช่วยย่อยอาหาร เพราะยังเป็นตัวกลางสำคัญที่ช่วยควบคุมสุขภาพจิตและอารมณ์ของเรา ความเครียดอาจทำให้จุลินทรีย์ดีลดลง และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาว

 

การเลือกดูแลจุลินทรีย์ในลำไส้อย่างเข้าใจ เช่น การใช้โพรไบโอติกส์สายพันธุ์เฉพาะอย่าง Bacillus coagulans BC198 และ Lactobacillus paracasei S38 ร่วมกับการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นแนวทางที่ดีในการฟื้นฟูสุขภาพจากภายใน เพราะการมีลำไส้ที่สมดุล คือหนึ่งในกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ