สุขภาพของแต่ละคน
ต้องการการดูแลที่ต่างกัน
สุขภาพของแต่ละคน
ต้องการการดูแลที่ต่างกัน
รู้หรือไม่? ในลำไส้ของมนุษย์เรานั้น มีจุลินทรีย์และแบคทีเรียประมาณ 30 – 400 ล้านล้านล้านตัว ซึ่งมีจำนวนมากกว่าเซลล์ของเราถึง 1.1 เท่า เราจึงเรียกจุลินทรีย์เหล่านี้ ว่าเป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย และมีความสำคัญต่อระบบต่างๆ ในร่างกายของเรา
เมื่อพูดถึงคำว่าจุลินทรีย์หรือแบคทีเรีย คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเป็นตัวที่ทำลายสุขภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้วแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์เหล่านั้น ก็มีทั้งตัวที่ดีและไม่ดี ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพก็ต่อเมื่อจุลินทรีย์ในร่างกายเกิดความไม่สมดุล จุลินทรีย์ตัวดีมีน้อยเกินไป ไม่สามารถควบคุมจุลินทรีย์ตัวร้ายได้ จริงๆ แล้วจุลินทรีย์ตัวดีมีประโยชน์และจำเป็นต่อสุขภาพมาก เพราะเป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ให้อาหารเซลล์ และสามารถปกป้องสุขภาพของเราจากแบคทีเรียตัวร้าย และไวรัสได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Probiotics แต่ละสายพันธุ์ ทำหน้าที่ได้ไม่เหมือนกัน และในทางเดินอาหารของแต่ละคนก็มีจุลินทรีย์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจะรู้ได้อย่างไรว่าใครต้องการเสริม Probiotics ชนิดไหน เพื่อเหมาะกับสุขภาพของตัวเองอย่างแท้จริง
คำตอบคือ การตรวจจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร เพื่อเข้าใจจุลินทรีย์ของตัวเอง
และดูแลสุขภาพที่เหมาะเฉพาะบุคคล เลือกรับประทาน Probiotics ที่เหมาะกับตัวเอง
เมื่อเกิดความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ปริมาณแบคทีเรียที่ดีจะถูกแทนที่ด้วยแบคทีเรียตัวร้าย ทำให้การสร้างวิตามินและสารสื่อประสาท เช่น serotonin, dopamine และ GABA มีปริมาณลดลงตามแบคทีเรียตัวดีที่เป็นผู้สร้าง ทำให้มีผลกระทบต่อการนอนหลับ
การที่รักษาสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้มีผลต่อการต้านทานการติดเชื้อ เมื่อแบคทีเรียประจำถิ่นที่เกาะอยู่บนผนังลำไส้มีปริมาณลดลง แบคทีเรียก่อโรคจะสามารถบุกเข้ามาทำลายเซลล์เยื่อเมือกและหลั่งสารเคมีทำให้เกิดการอักเสบ อีกทั้งยังสร้างกลไกยับยั้งการสร้างภูมิคุ้มกันของเซลล์ลำไส้
เมื่อเกิดภาวะเสียสมดุลแบคทีเรียก่อโรคจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นและปล่อยสารพิษมาย่อยเซลล์เยื่อเมือกผนังลำไส้ ทำให้แบคทีเรียสามารถผ่านเข้าไปในลำไส้ชั้นในได้ และก่อให้เกิดการอักเสบจากการตอบสนองต่อเชื้อที่บุกรุกเข้ามานี้
หากเรารับประทานอาหารในปริมาณมาก กลไกการย่อยอาหารของมนุษย์อาจไม่สามารถย่อยอาหารเหล่านั้นได้หมด อาหารที่เหลือจะถูกย่อยโดยแบคทีเรียต่างชนิดที่มีเอมไซม์ย่อยอาหารแตกต่างกัน หากเกิดความไม่สมดุลจากการที่แบคทีเรียบางชนิดหายไป จะทำให้เราขาดเอนไซม์ในการย่อยอาหารนั้นๆ จึงส่งผลระบบเผาพลาญเสียสมดุลและย่อยอาหารได้ไม่ดีตามมา
หลังจากอาหารที่เราย่อยเสร็จมาถึงลำไส้ใหญ่ จุลินทรีย์ในบริเวณนี้จะมีหน้าที่ย่อยกากอาหารที่ยังหลงเหลืออยู่ หากเกิดการเสียสมดุลจุลินทรีย์จะทำให้กระบวนการย่อยช้าลง ส่งผลกับการขับถ่าย และยังเพิ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ดีในลำไส้เล็ก ทำให้เกิดอาการเน้นท้อง ท้องอืด และย่อยอาหารที่เข้ามาใหม่ได้ไม่ดี
หากอาหารไม่ถูกย่อยโดยสมบูรณ์เนื่องจากมีความหลากหลายของแบคทีเรียที่ช่วยย่อยอาหารลดลง อาหารจะตกค้างอยู่ในลำไส้เป็นเวลานานและทำให้ขับถ่ายผิดปกติ
มีสาเหตุจากการอักเสบซึ่งเกิดจากการเสียสมดุลจุลลินทรีย์และการติดเชื้อ โดยแบคทีเรียก่อโรคที่ไม่ถูกควบคุมจะผลิตสารพิษมากระตุ้นกระบวนการอักเสบ
หากจุลินทรีย์มีความหลากหลายน้อยจะทำให้เราขาดเอนไซม์ในการย่อยอาหารจากจุลลินทรีย์ เมื่อเรากินอาหารในปริมาณมากอาหารจะไม่ถูกย่อยและไม่สามารถดึงพลังงานจากอาหารมาใช้ได้ ทำให้เกิดการสะสมพลังงานและไขมันในที่สุด
จากการที่ลำไส้เสียสมดุลและเกิดการสลายของเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้ ทำให้เกิดรอยรั่ว แบคทีเรียก่อโรค สารพิษและสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ สามารถผ่านเข้าไปในกระแสเลือดได้ สารพิษเหล่านี้ทำให้ภูมิคุ้มกันในช่องปากลดลงและเกิดฟันผุได้
การทานอาหารที่มีแป้งและไขมันสูงเป็นประจำ หรือการทานอาหารสำเร็จรูปที่มีสารกันบูด ยาฆ่าแมลง ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้จุลินทรีย์ตัวดีถูกกำจัดไปจากลำไส้
เช่น การนอนไม่หลับ ความเครียดสะสม การไม่ออกกำลังกาย
หากมีการรับประทานยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานก็อาจทำให้ ส้งคมจุลินทรีย์ขาดความสมดุล เนื่องจากภายในลำไส้ของเรานั้นเต็มไปด้วยแบคทีเรียชนิดต่างๆ ซึ่งมีทั้งแบคทีเรียชนิดที่ดีและแบคทีเรียตัวร้าย การกินยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อเป็นประจำจะทำให้เป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ ทั้งดีและร้ายในลำไส้ออกไปจนหมดสิ้น และมีผลต่อการเกิดโรคต่างๆ ตามมา
มดลูกของแม่เปรียบเสมือนเกราะป้องกันแบคทีเรียและไวรัส แต่เมื่อเราคลอดออกมาจะได้รับจุลินทรีย์ที่แตกต่างกันทันที ขึ้นอยู่กับวิธีการคลอดและสถานที่ที่ทำคลอด
แม้จะอยู่ที่เดียวกัน ร้านเดียวกัน หรือกินเมนูเดียวกัน แต่จุลินทรีย์ในร่างกายก็มีต้นทุนไม่เหมือนกัน ดังนั้นการวิธีการดูแลสุขภาพจึงต้องต่างกัน มาทำความรู้จักจุลินทรีย์ที่อยู่ในตัวเรา เพื่อให้การดูแลสุขภาพนั้นเหมาะกับตัวเราเองมากที่สุด