ท้องผูก ถ่ายยาก ทำยังไงดี? แก้ปัญหาท้องผูกที่ต้นเหตุ

ท้องผูก

หลายคนอาจจะต้องเคยเจอปัญหาท้องผูก ขับถ่ายยาก ปัญหาเหล่านี้เกิดจากการทำงานของลำไส้ที่ผิดปกติ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่มักพบบ่อย คือ พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสม ทำให้ระบบทางเดินอาหารและขับถ่ายไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และหากปล่อยปัญหาทิ้งไว้เป็นเวลานานก็อาจจะนำมาสู่ ภาวะแทรกซ้อนที่ยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงตั้งแต่เริ่มต้น บทความฉบับนี้จะมาแนะนำ วิธีกระตุ้น การขับถ่าย แก้ปัญหาท้องผูกที่ต้นเหตุอย่างถูกวิธี เสริมให้ระบบขับถ่ายสามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ 

 

ต้นเหตุของอาการท้องผูก

อาการท้องผูกเกิดจากการทำงานของลำไส้ที่ผิดปกติ เช่น การเคลื่อนตัวช้าหรือบีบตัวไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการตกค้างในลำไส้ใหญ่ ไม่สามารถกำจัดอุจจาระหรือกากใยอาหารได้หมด เมื่อปล่อยทิ้งไว้นาน ร่างกายจะดูดซึมน้ำจากกากใยเหล่านั้น ส่งผลให้อุจจาระตกค้างในลำไส้มีลักษณะแห้ง แข็ง และทำให้ขับถ่ายได้ยาก

ต้นเหตุสำคัญของอาการท้องผูก อาจเกิดจากการทานอาหารที่มีกากใยน้อย หรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น การใช้ยาบางประเภท การเบ่งถ่ายแบบผิดวิธี ความผิดปกติของลำไส้ หรือโรคประจำตัว ซึ่งอาจส่งผลให้อาการท้องผูกยิ่งแย่ลง 

แม้ว่าบางคนเลือกทานอาหารที่มีกากใยแล้ว แต่หากไม่มีจุลินทรีย์ในลำไส้ที่ช่วยย่อยกากใย อาจทำให้อุจจาระแข็งและท้องผูกได้ เพราะเราย่อยกากใยไม่ได้เอง จุลินทรีย์ในลำไส้บางชนิดจึงสำคัญมาก หากมีจุลินทรีย์เหล่านี้น้อย กากใยที่ทานเข้าไปจะกลายเป็นของตกค้าง ทำให้อุจจาระแข็งตัวและขับถ่ายยากจนเป็นภาวะท้องผูก

ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีและไม่ให้เกิดการตกค้างในลำไส้ ควรเริ่มปรับพฤติกรรมง่าย ๆ เสริมการทำงานของจุลินทรีย์ในลำไส้ กระตุ้นให้ระบบขับถ่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ผลเสียจากการไม่ขับถ่าย อย่างเป็นประจำ 

ท้องผูก ขับถ่ายยาก อาจเป็นปัญหาที่หลายคนมักพบเจอจนเป็นเรื่องปกติ แต่อาการเหล่านี้เป็นเรื่องไม่ปกติของร่างกายที่หากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลเสียตามมามากมาย 

  1. รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว และอาจส่งผลต่ออารมณ์ ความเครียด ระบบขับถ่ายทำหน้าที่ในการขับเอากากใยอาหาร หรือของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกาย ดังนั้นการไม่ขับถ่ายอย่างเป็นประจำ หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็จะทำให้เกิดการตกค้างของเสียภายในลำไส้ ส่งผลให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว และอาจจะส่งผลต่ออารมณ์ ความเครียดได้เช่นกัน 
  2. ส่งผลให้มีกลิ่นตัว หรือมีกลิ่นปาก กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ มักเกิดจากการสะสมของแบคทีเรียในร่างกาย ซึ่งนอกจากจะเป็นสาเหตุของการไม่ดูแลความสะอาดภายนอกเท่าที่ควรแล้ว อาจเป็นผลจากการสะสมของเสียภายในลำไส้ จนเกิดการดูดซึมกลับไปใช้หมุนเวียนภายในร่างกาย ดังนั้นนอกจากการรักษาความสะอาดแล้ว การขับถ่ายอย่างเป็นประจำ ก็จะสามารถช่วยลดกลิ่นปาก หรือกลิ่นตัว ให้กลับมาปกติเหมือนเดิมได้ 
  3. ส่งผลต่อภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย ทำให้ป่วยง่าย การที่คุณไม่ขับถ่ายอย่างเป็นปกติ ก็เหมือนการสะสมแบคทีเรียตัวร้ายไว้ในร่างกายมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และหากร่างกายได้รับเชื้อโรคเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลให้มีอาการป่วยได้ง่ายขึ้น 

 

วิธีแก้ท้องผูกง่าย ๆ ที่ต้นเหตุ ช่วยให้ขับถ่ายคล่องขึ้น

สำหรับใครที่มีอาการท้องผูก ระยะเริ่มต้น แนะนำให้เริ่มหันมาปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายกลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติมากขึ้น ลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ได้ง่าย ๆ ดังนี้

  1. ดื่มน้ำหลังตื่นนอน เป็นประจำ อย่างน้อย 1 แก้ว เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วงเวลาหลังตื่นนอน เป็นช่วงเวลาที่กำลังท้องว่าง การดื่มน้ำในเวลานี้ จะเหมือนเป็นการทำความสะอาดสิ่งตกค้างในลำไส้ กระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายช่วงเช้าได้เป็นอย่างดี 
  2. ปรับท่านั่งถ่ายให้เหมาะสม เสริมประสิทธิภาพการขับถ่ายโดยท่าที่เหมาะสมสำหรับการนั่งขับถ่าย คือให้เข่าอยู่เหนือสะโพก ประมาณ 35 องศา อาจนำเก้าอี้มาวางเสริมข้างล่าง แล้วโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย การนั่งในลักษณะนี้จะช่วยให้ลำไส้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้ขับถ่ายได้คล่องขึ้น นอกจากนี้ การฝึกนิสัย เข้าห้องน้ำ ขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่กลั้นการขับถ่าย ก็จะช่วยให้ร่างกายเกิดการปรับตัว และมีการขับถ่ายที่ดียิ่งขึ้น
  3. ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร เลือกทานอาหารที่มีกากใยให้เพียงพออย่างเป็นประจำ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ที่หลากหลาย จะช่วยเสริมให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดปัญหาท้องผูก แต่หากคุณยังไม่มีจุลินทรีย์ในลำไส้ที่ทำหน้าที่ช่วยกากใย  แนะนำให้เริ่มต้นทานกากใยจากผักที่มีสีอ่อน ๆ ก่อน เพื่อปรับสมดุลการทำงานภายในลำไส้ แล้วค่อย ๆ ปรับ ทานผักสีเขียวเข้มมากขึ้น จะช่วยให้จุลินทรีย์ในลำไส้คุณได้มีการปรับตัวเสริมประสิทธิภาพในการย่อยกากใยได้ดีขึ้น
  4. เลือกทานอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ กระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะช่วงเช้า หรือช่วงท้องว่าง จะช่วยเสริมให้โพรไบโอติกส์ เกาะติดผนังลำไส้ได้ดีขึ้น สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 
  5. ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อช่วยกระตุ้นให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนไหวมากขึ้น ส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น
  6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะยิ่งช่วยเสริมให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ลดความแปรปรวน เสริมให้สุขภาพร่างกายโดยรวมแข็งแรงมากขึ้น 

นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การแก้ปัญหาระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แนะนำให้ลองตรวจ จุลินทรีย์ในลำไส้ Modgut Gut Microbiome Test หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยไม่คิดค่าบริการได้  คลิกที่นี้ ที่จะทำให้คำแนะนำ เข้าใจ สัดส่วน ปริมาณของจุลินทรีย์ในร่างกายตัวเองมากขึ้น และช่วยให้สามารถเลือกทานอาหารเสริมจุลินทรีย์ในร่างกายที่ขาด รวมทั้งปรับพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม เพื่อการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพ เห็นผลชัดเจนมากขึ้น

 

อย่าปล่อยให้ปัญหาท้องผูกมากวนใจ ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ไม่เต็มที่ สำหรับใครที่กำลังรู้สึกเริ่มมีปัญหาการขับถ่าย ถ่ายยาก แนะนำให้ลองปรับพฤติกรรมง่าย ๆ เสริมการทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ก่อนที่ปัญหานี้จะกลายเป็น ปัญหาเรื้อรัง ที่ส่งผลต่อสุขภาพมากขึ้น

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save