ไขมันส่วนเกิน ภัยร้ายใกล้ตัว อาจเกิดได้จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดผลร้ายตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความมั่นไม่ใจในรูปร่างของตนเอง หรืออาจจะปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมาในอนาคต บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับ ไขมันส่วนเกิน ทั้งปัจจัยที่ทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกิน รวมไปถึง การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ที่จะช่วยลดไขมัน ส่วนเกิน เสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น
ไขมันส่วนเกิน คือ อะไร ?
ไขมันส่วนเกิน คือไขมันสะสม ที่เกาะอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา รวมทั้งเกาะตัวอยู่ตามผนังหลอดเลือด ไขมันส่วนเกิน เหล่านี้นับเป็นไขมันตัวร้ายที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายตามมา ทั้งส่งผลต่อรูปร่าง และส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย เช่น น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น รูปร่างดูใหญ่ขึ้น จนไปถึง ปัญหาต่อสุขภาพร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ ที่อาจจะรักษาได้ยาก
ไขมันส่วนเกิน เกิดจากอะไรบ้าง ?
ไขมันส่วนเกิน ที่สะสมอยู่ในร่างกาย เกิดจากการได้รับพลังงานและสารอาหาร เกินกว่าความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน โดยเฉพาะ สารอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต และไขมัน ทำให้ร่างกายไม่สามารถดึงออกไปใช้ได้หมด จึงเกิดการสะสมไว้ตามส่วนต่าง ๆ เพื่อเป็นพลังงานสำรอง
นอกจากนี้อาจมีปัจจัยและพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการสะสมไขมันส่วนเกินได้ เช่น ระดับฮอร์โมนบางชนิดในร่างกาย, ปัจจัยเรื่องอายุที่เพิ่มขึ้น หรือ กิจวัตรประจำวันที่ไม่ค่อยได้ขยับร่างกายมากนัก
ดังนั้น หากลองแบ่งที่มาของการเกิดไขมันส่วนเกินอย่างง่าย อาจจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะของปัจจัย
- ปัจจัยภายใน
- เพศ: โดยธรรมชาติ เพศหญิงจะมีแนวโน้มมีไขมันในร่างกาย มากกว่า เพศชาย ดังนั้น ไขมันสะสมในผู้หญิง ก็มักจะมีสูงกว่าเพศชายเช่นเดียวกัน
- อายุ: เมื่อเรามีอายุเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลต่ออัตราการเผาผลาญของร่างกายที่ค่อย ๆ ลดลง ทำให้โอกาสที่จะเกิดไขมันสะสมจะยิ่งเพิ่มขึ้นได้ง่าย
- ปัจจัยภายนอก
- ลักษณะการรับประทานอาหาร: หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการทาน อาหารที่มีส่วนประกอบของ ไขมัน แป้ง หรือ น้ำตาลเป็นจำนวนมาก เกินความต้องการในแต่ละวัน ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถดึงมาเผาผลาญได้หมด ก่อให้เกิดเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ได้
- การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายเป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยเสริมอัตราการเผาผลาญของร่างกายให้สูงขึ้น และมีการดึงไขมันออกมาใช้ ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย หรือมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ค่อยได้ขยับตัว ก็จะมีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการสะสมของไขมันตามส่วนต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ
Visceral Fat ไขมันส่วนเกินในช่องท้อง สำคัญอย่างไร ?
ไขมันสะสม บริเวณที่อันตรายที่สุดคือ Visceral Fat หรือ ไขมันส่วนเกินในช่องท้อง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในคนอ้วนและคนผอม อย่างที่ทุกคนทราบกันเบื้องต้นแล้วว่าไขมันส่วนเกินเหล่านี้ มักเกิดขึ้นจากการที่ร่างกายสะสมสารอาหารประเภทไขมันเป็นจำนวนมากเกินความต้องการ และไม่สามารถเผาผลาญได้หมดในแต่ละวัน ทำให้เกิดการเกาะตามอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะ บริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอวัยวะสำคัญมากมาย เมื่อเกิดการสะสมนานเข้า ก็จะเกิดการแข็งตัว และดันให้หน้าท้องของเราดูใหญ่ ขึ้นอย่างชัดเจน ที่สำคัญการสะสมไขมันเหล่านี้ จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพตามมาอีกมากมาย
Visceral Fat เป็นไขมันส่วนเกินที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง ยิ่งกว่าไขมันที่สะสมใต้ชั้นผิวหนัง และยิ่งบริเวณช่องท้องเป็นจุดรวมอวัยวะสำคัญมากมาย ไขมันที่สะสมในบริเวณนี้ จะเกิดการสลายตัวเป็นกรดไขมันอิสระ และเข้าไปขัดขวางกระบวนการเผาผลาญกลูโคส จนทำให้เกิดภาวะ ดื้ออินซูลิน ระดับน้ำตาลในร่างกายพุ่งสูงขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมที่เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมามากมาย เช่น
– โรคอ้วน
– โรคหัวใจ
– ความดันสูง
– ไขมันพอกตับ
– หลอดเลือดอุดตัน
– โรคข้อเข่าเสื่อม
– โรคเบาหวาน
แชร์ เทคนิค การดูแลตัวเอง เพื่อช่วยลดไขมัน ในร่างกาย
- วัดเส้นรอบเอว (Waist circumference)
การวัดเส้นรอบเอว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยตรวจเช็คความเสี่ยงของการสะสมไขมันในช่องท้องได้เบื้องต้น
เกณฑ์ทั่วไป
ผู้หญิงควรมีเส้นรอบเอว ไม่เกิน 35 นิ้ว และ ผู้ชายไม่ควรเกิน 40 นิ้ว หากเกินจากนี้ แปลว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะมีการสะสมไขมันช่องท้องเป็นจำนวนมาก
- การคำนวณค่า BMI
วิธีนี้จะช่วยประเมินสภาวะความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนของร่างกาย โดยจะใช้ น้ำหนัก (กิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลัง 2
เกณฑ์ค่า BMI เบื้องต้น
ค่า BMI ภาวะเสี่ยงต่อโรคอ้วน
< 18.5 ความเสี่ยงต่ำ
18.6 – 22.9 ภาวะปกติ
23.0 – 24.9 เริ่มมีความเสี่ยง
25 – 29.9 เสี่ยงสูง
>30 เริ่มอันตรายต่อสุขภาพ
การลดไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะไขมันสะสมบริเวณช่องท้อง จำเป็นต้องอาศัยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกายเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้น การดูแลตัวเอง เพื่อลดไขมันส่วนเกินเหล่านี้
- คุณควรให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพียงแค่คาร์ดิโอเท่านั้น แต่ควรเสริมการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง เพื่อช่วยให้ร่างกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน ดึงไขมันส่วนเกินออกมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น
- เน้นการทานโปรตีน และอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แก่ร่างกาย
- เสริมการทานไฟเบอร์ ที่ช่วยปรับสมดุล ลำไส้ และระบบขับถ่ายให้สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- เลี่ยงการทาน ของทอด อาหารที่มีไขมันสูง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการสะสมมากขึ้น
- ดื่มน้ำเปล่า และพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยรักษาความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพการลดไขมันในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
ไขมันส่วนเกิน นอกจากจะทำให้ไม่มั่นใจในรูปร่างแล้ว ยังแฝงไปด้วยภัยร้ายที่เป็นอัตรายต่อสุขภาพตามมามากมาย ดังนั้นการเริ่มต้นดูแลตัวเอง ตั้งแต่วันนี้ เพื่อลดไขมันสะสมในร่างกาย เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ห่างไกลโรคร้าย และยังช่วยเสริมความมั่นใจในรูปร่างของตัวเองได้มากขึ้นอีกด้วย